เล่นจนได้เรื่อง! นายก อบต.สั่งสอบ ขรก.หนุ่มเขียนหนังสือลาออกเพราะถูกหวย 30 ล้าน

เชียงราย - ข้าราชการหนุ่ม อบต.ปอขอโทษผู้บังคับบัญชา-สังคม..หลังเขียนหนังสือลาออกราชการ ระบุเหตุผลเพราะถูกหวย 30 ล้าน แชร์เล่นกันในกลุ่ม แต่โพสต์หลุดจนกลายเป็นไวรัลโลกออนไลน์ ล่าสุดนายก อบต.ต้องออกหนังสือชี้แจงพร้อมสั่งสอบซ้ำ

วันนี้ (20 ก.ค. 64) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีมีผู้แชร์ไฟล์เป็นเอกสารผ่านทางไลน์ทั้งส่วนตัวและกลุ่มต่างๆ มีเนื้อหาเหมือนหนังสือลาออกจากราชการ ระบุว่า..นักทรัพยากรบุคคลฯ คนหนึ่งใน องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ส่งถึงนายก อบต.ปอ ขอลาออกจากราชการ โดยให้เหตุผลว่าเพราะถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลได้รางวัลที่ 1 เป็นเงิน 30 ล้านบาท

ในหนังสือดังกล่าวยังมีการลงลายมือชื่อ รายละเอียดบุคคลการเข้ารับบรรจุและแต่งตั้งพร้อมวันและเวลาต่างๆ เอาไว้อย่างครบถ้วน และหนังสือลาออกจากราชการ ระบุวันที่ขอลาออกคือ วันที่ 1 ก.ย. 2564 และท้ายหนังสือยังมีความเห็นของผู้บังคับบัญชาเบื้องต้นด้วยว่าเห็นควรอนุญาตให้ออกจากราชการได้ตามวันและเวลาดังกล่าวด้วย

ซึ่งเรื่องดังกลาวกลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์ มีการแชร์ต่อกันอย่างกว้างขวาง โดยส่วนใหญ่ระบุทำนองว่าเป็นเหตุผลในฝันของใครหลายคนที่อยากเขียนตอนลาออกจากราชการหรืองานประจำ

ด้านนายแสน ลือชา นายก อบต.ปอ กล่าวว่า ที่ผ่านมาไม่เคยมีเรื่องราวว่าข้าราชการหรือพนักงานใน อบต.ปอถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 แล้วได้เงิน 30 ล้านบาท กรณีดังกล่าวคงเกิดจากการที่มีคนทำเอกสารล้อเล่นกันในหมู่เพื่อนฝูงแล้วหลุดไปวงนอกทำให้มีการแชร์กันไป ซึ่งก็ถือว่าไม่ได้มีผลใดๆ โดยการทำงานของ อบต.ปอก็ยังคงเป็นไปตามปกติ

ล่าสุดนายก อบต.ปอยังได้มีประกาศ อบต.ปอ ชี้แจงกรณีมีการเผยแพร่หนังสือดังกล่าวด้วย โดยมีเนื้อหาว่ากรณีที่มีการแชร์ต่อกันอย่างแพร่หลายและมีผู้สนใจจำนวนมาก รวมทั้งนักข่าวหลายสำนักได้สอบถามมาด้วย ดังนั้น อบต.ปอจึงได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นและเรียกพนักงานที่มีชื่อปรากฏในหนังสือลาออกมาสอบถามแล้วทราบว่าเป็นผู้จัดทำหนังสือลาออกขึ้นมาจริง โดยมีวัตถุประสงค์เพียงเพื่อล้อเล่นกันในหมู่เพื่อนร่วมงานเท่านั้น มิได้เป็นหนังสือจริงแต่อย่างใดและไม่ได้ถูกรางวัลที่ 1 ด้วย

ทั้งนี้ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสาธารณชนและไม่ให้เกิดความสับสนหรือสงสัยใดๆ อีก ทาง อบต.ปอจึงจะดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง และหากมีมูลอันควรกล่าวหาว่าเป็นความผิดทางวินัยก็จะดำเนินการต่อพนักงาน อบต.รายดังกล่าวต่อไปด้วย

ขอบคุณที่มาจาก : mgronline